มิน พีชญา ยกเครื่องการแสดงใหม่ จังหวะใช่ รอเซย์เยส เคลวิน
มิน พีชญา ยกเครื่องการแสดงใหม่
มิน พีชญา ยกเครื่องการแสดงใหม่ เปิดโลกการแสดงแบบใหม่แบบสับนางเอกสาว “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” ร่วมงานกับ ช่องวัน 31 ครั้งแรกท้าทายฝีมืออีกครั้ง จับคู่พระเอกฮอต “ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ” งัดเคมีทางการแสดงเชือด บาคาร่า ทดลอง เฉือนฟาดฟันในละคร “เกมรักปาฏิหาริย์” ทางช่องวัน 31 ร่วมทัพด้วยนักแสดงมากฝีมือ นก-สินจัย, แซม-ยุรนันท์, ท็อป-จรณ, เพลงขวัญ- นัตยา, นาน่า-ศวรรยา, ต้อม-พลวัฒน์, แทค-ภรัณยู ฯลฯ กำกับโดย เหมี่ยว–ปวันรัตน์ นาคสุริยะ โดยผู้จัดมากฝีมือ “ปุ๊ย ผอูน จันทรศิริ”
งานนี้ มิน ยกเครื่องปรับมายด์เซตใหม่! ในเรื่อง มิน รับบท มายด์ ต้องเผชิญกับเรื่องราวแห่งเกมธุรกิจและปริศนาฆาตกรรม การตามหาความจริงเจ้าตัวเล่าถึงบทบาทว่า “อยากเล่นอะไรที่ บาคาร่า คือ ยังไม่เคยเล่นและเรื่องนี้มีความซีรีส์แต่ยังมีความละครด้วย มินอยากร่วมงานกับช่องวันอยู่แล้ว เพราะเป็นบ้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดง มันเป็นความแก้แค้นผสมกับเป็นคนใสๆและอยู่ๆก็พัฒนากลายเป็นตัวละครที่มีความแค้นแต่ก็กลับมาเหมือนคนปกติ แต่ข้างในเต็มไปด้วยความอยากค้นหา สงสัย ไม่เข้าใจ และแค้นด้วย”
ใครจะรู้นางเอกแถวหน้า มิน–พีชญา ในฐานะนักแสดงอิสระ เคยสลัดบทไม่หลุดจนเกือบเป็นโรคซึมเศร้า จนเรื่องนี้ได้เจอ! “มิน” ปรับมายด์เซตทางการแสดงใหม่
“มิน” เล่าว่า “มินโตมาจากการที่ผู้ใหญ่สอน ว่าเข้ามาในกองถ่ายต้องเป็นตัวละครตัวนั้น หรือในภาษาการแสดงจะเรียกว่า Method Acting ซึ่งมันค่อนข้างกลืนพลังงานเราและหลายคนก็ป่วยเป็นซึมเศร้า ตัวมินไม่ถึงขนาดอยู่ในภาวะซึมเศร้าหาหมอ แต่มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกว่าฉันไม่ปกติ กลับบ้านเราก็เป็นตัวนั้นโดยที่เราไม่รู้ตัว
ช่วงตอนเล่นเรื่องสองนรี ตัวที่ชื่อหนึ่งป่วยเป็นโรคฮิสทีเรีย มันมีความบ้า หิวความรักรุนแรง ต่างจากชีวิตเราที่พ่อแม่รัก เพื่อนเยอะ ช่วงนั้นมันกักความเครียดไว้จนอักเสบเป็นฝีอยู่ตรงกลางหน้าอก เครียดตลอดเวลา มีผลกระทบกับความสัมพันธ์ เรื่องนั้นได้รางวัลการแสดงเยอะแต่ต้องแลกกับชีวิตส่วนตัว ต้องแยกทางกันไป”
“มิน” เล่าเสริมว่า “เรื่องนี้ครั้งแรกที่มินถ่ายทีเซอร์ มินหยุดร้องไห้ไม่ได้เป็นฉากที่แม่หล่นลงมาตายต่อหน้า ดิ่งมาก พอสั่งคัตกว่ามินจะหยุดร้องไห้ได้ก็เกือบ 1 นาที พี่เหมี่ยว-ปวันรัตน์ มาจับมือมินแล้วบอกว่าหยุดร้อง เป็นอย่างนี้ไม่ดีทั้งกับการแสดงและชีวิตส่วนตัว เอาตัวเองกลับมา ตอนนั้นเรายังไม่รู้ว่ามันมีวิธีเล่นอีกแบบ เรื่องนี้ก็เล่นอีกแบบนึงเลย บรรยากาศกองดีมาก แรกๆงงนะ ร้องไห้อยู่แป๊บนึงก็หัวเราะ คือมันต้องกลับมาเป็นตัวละคร ต้องเรียบเรียงใหม่ มีขอทำสมาธิแป๊บนึง (ยิ้ม)
มันเป็นเหมือนการฝึกถอดหมวก เราต้องมีสติมากขึ้นและฝึกจิตให้มีความไวในการถอดมากขึ้นแล้วก็ลืมสิ่งนั้น เป็นเรื่องแรกที่มินเล่นแบบเก็บพลังแล้วปล่อย มินรู้สึกว่าพลังงานข้างในมันอัดแน่นกว่ามาก เรื่องนี้เวิร์กช็อปวันนึง 6-7 ชั่วโมงหลายวันมากๆ เป็นการเปิดโลกใหม่ทางการแสดง เราเตรียมตัวอ่านบทเยอะมาก พอเข้ากองก็ต้องฟังผู้กำกับและผู้จัดให้เยอะ ผสมผสานออกมาเป็นสิ่งที่พวกเราทั้งทีมตกลงกันว่านี่คือรสชาติของละครที่เราอยากได้!!”