เอกลาภนอนคุก อดีตผู้บริหาร Zipmex นอนคุก ยื่น 15 ล้านขอปล่อยตัว
เอกลาภนอนคุก เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เว็บแทงบอล222 ถ.เจริญกรุง ศาลอ่านคำพิพากษาคดี อ.1239/66 ที่ นายประทีป กษัตริย์ ผู้เสียหายเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด และ นายเอกลาภ ยิ้มวิไล กรรมการผู้มีอำนาจ บาคาร่า เว็บตรง100 ซึ่งเคยเป็นผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่โด่งดังและเป็นที่นิยมมากที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย
นายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหารบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นจำเลยที่ 1 – 2 ตามลำดับ ในความผิดฐานฉ้อโกง ยักยอก ความผิดต่อ พ.ร.บว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ กรณีที่จำเลยร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกว่า 700 ราย เสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท จำเลยให้การปฏิเสธ
เอกลาภนอนคุก ยื่น 15 ล้านขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลอาญาใต้ส่งศาลอุทธรณ์ พิจารณาประกัน
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานและพิพากษาให้จำเลยทั้งสองมีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 และมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง (1)
ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 พิพากษาลงโทษปรับบริษัท ซิปเม็กซ์ฯ เป็นเงิน 100,000 บาทและลงโทษจำคุกนายเอกลาภ ยิ้มวิไล เป็นเวลา 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง
เอกลาภนอน คุก ภายหลังนายเอกลาภ จำเลยที่ 2 ยื่นขอประกันตนเองในชั้นอุทธรณ์คดี โดยเสนอหลักประกันเดิมชั้นพิจารณา จำนวน 10,000,000 บาท และขอวางหลักประกันเพิ่มอีกในวันนี้ จำนวน 5,000,000 บาท รวมหลักประกันยื่นขอปล่อยชั่วคราวชั้นอุทธรณ์คดี จำนวน 15,000,000 บาท โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น มีคำสั่งให้ส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวดังกล่าวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัว นายเอกลาภ ยิ้มวิไล จำเลย ไปคุมขังในเรือนจำระหว่างรอคำสั่งประกันของศาลอุทธรณ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาประมาณ1-3 วัน
เอกลาภนอน คุก ส่วน นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ผู้ก่อตั้งสำนักกฎหมาย VLA ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ตัวแทนกลุ่มร่วมสู้ Zipmex ที่ยื่นฟ้องคดีแพ่งแบบกลุ่ม เปิดเผยว่า คดีนี้มีประชาชนเสียหายเป็นหมื่นราย แต่เรื่องผ่านมาเกือบสามปีกลับต้องให้ประชาชนไปแบกภาระฟ้องคดีอาญาเองจนชนะคดีในที่สุด
แต่ก็เป็นผลคดีเฉพาะราย จึงขอให้ภาครัฐโดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งดำเนินคดีอาญาแผ่นดินเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่สองราย และเรียกความเป็นธรรมให้ผู้เสียหายทุกคนโดยเร็วที่สุด
“เรามีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีผู้เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศร่วมมือกันหลอกลวงประชาชนให้หลงเข้าใจว่าสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าซิปเม็กซ์ได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย และไม่มีการนำไปใช้ในทางที่เสี่ยง
แต่แท้จริงกลับนำสินทรัพย์ของผู้เสียหายไปใช้ในการกู้ยืมเงินในต่างประเทศโดยผิดกฎหมาย เพื่อหวังกอบโกยประโยชน์ทางธุรกิจของพวกพ้อง จนลูกค้ากว่าหมื่นรายเสียหายร้ายแรง ผู้เกี่ยวข้องรายใดที่สำนึกผิด ขอให้รีบแสดงความจริงใจช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายให้เร็วที่สุด” นายวีรพัฒน์ กล่าว