ศรีสุวรรณ จรรยา

ศรีสุวรรณ จรรยา ด่วนศาลสั่งจำคุก ศรี สุวรรณ-ศรีสุวรรณ คดีรีดทรัพย์อธิบดี

ศรีสุวรรณ จรรยา เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง บาคาร่า sa vegas ถนนเลียบทางรถไฟ ศาลนัดพิพากษาคดีที่นายศรี สุวรรณจรรยา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สล็อต369 ในความผิดฐาน “เรียกรับทรัพย์สินจาก นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว

ศรีสุวรรณ จรรยา ศาลมีคำสั่งพิพากษา จำคุก นายยศวริศ ชูกล่อม 6 ปี 4 เดือน ด้าน นายศรีสุวรรณโดน 4 ปี

ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษานายศรี สุวรรณ เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ผู้มีอำนาจต้องการเตะตัดขา เพราะไม่ต้องการให้ทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เพราะสิ่งที่ทำมานับ 10 ปี เป็นที่หวาดผวาของนักการเมืองและข้าราชการจำนวนมาก เรื่องร้องเรียนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองหลายพรรค

ศรีสุวรรณ จรรยา

จบอนาคตการเมืองของนักการเมืองดังหลายคน จึงเป็นที่มาของการหาเหตุให้ต้องคดี โดยใช้เทคนิควิธีการ ซึ่งในภาษากฎหมายเรียกว่าล่อให้กระทำความผิด ทั้งการเอาถุงเงินไปแขวนหน้าบ้าน หากพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นความผิด อนาคตอาจนำไปใช้กันทั่วประเทศและก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อประชาชน

ที่ผ่านมาได้ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด เพราะต้องการพิสูจน์ให้ความปรากฏชัดเจน ที่ผ่านมาได้รับความเสียหายอย่างมากประเด็นสำคัญคือไม่สามารถใช้สิทธิ์ในฐานะประชาชนมาตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูงได้มากนัก ทำให้นักการเมืองดีอกดีใจ กระพือปีก กระดี๊กระด๊า ทำอะไรโดยอำเภอใจ แล้วย่ามใจ

นายศรี สุวรรณ กล่าวอีกว่า วันนี้ไม่กังวลใจอะไร แต่กลับมีความมั่นใจในการไต่สวนสืบ และเชื่อมั่นในคำพิพากษาว่าศาลจะให้เจ้าตัวกลับไปทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งเหมือนเดิม โดยการต่อสู้ไม่ได้มีพยานหรือหลักฐานอื่น นอกจากหลักฐานตามคำฟ้องที่ตำรวจและอัยการเสนอมาที่ศาลจำนวน 4,773 หน้ามาโต้

เพราะคำฟ้องทั้งหมด ทีมทนายความสามารถจับได้ว่ามีข้อพิรุธ พยานหลักฐานอ่อน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการต่อสู้ในรูปคดี อย่างน้อย ๆ ก็ขอให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานที่ไม่ให้ผู้มีอำนาจมากลั่นแกล้งอีกต่อไป ส่วนจะมีการฟ้องกลับหรือไม่ ขอฟังคำพิพากษาและปรึกษาทีมทนายก่อน

ส่วน นายยศวริศ เดินทางมาถึงก่อนเวลานัดหมาย แต่ยังไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เดินทางมาถึงได้เดินขึ้นที่ห้องพิจารณาคดีทันที

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยทั้งหมดกระทำความผิดจริง ฐานเป็นพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานงานให้ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบ มีพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิด ทำคลิปเสียง, คลิปภาพ , ข้อความแชทในแอพพลิเคชัน LINE และหมายเลขธนบัตรที่นำไปมอบให้นายศรี สุวรรณที่บ้านนั้นเป็นหมายเลขเดียวกันกับที่ภรรยาของนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เบิกจากธนาคารมาเพื่อเป็นหลักฐานในการส่งมอบเงินในวันเกิดเหตุ

ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 ขณะเกิดเหตุเป็นคณะทำงานตรวจราชการที่ 11 และได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางปกครอง จำเลยที่ 1 จึงเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้อต่อสู้ของจำเลยที่ 1 ว่าไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงฟังไม่ขึ้น โดยคดีนี้โจทก์อ้างคลิปบันทึกภาพและเสียง 40 คลิป จากภรรยาของผู้เสียหาย ซึ่งศาลได้ส่งตรวจพิสูจน์แล้วไม่มีการตัดต่อ และจำเลยที่ 1-3 ไม่ได้ปฏิเสธว่าคลิปและภาพดังกล่าวเป็นจริง

และคลิปและภาพดังกล่าวแสดงเหตุการณ์เป็นลำดับขั้นตอน สอดคล้องกับที่ผู้เสียหายและภรรยาเบิกความ จึงมีน้ำหนักรับฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 2 ได้แถลงข่าวที่รัฐสภาว่ากรมการข้าวมีการทุจริตและจะทำการตรวจสอบ ก่อนจะโทรกลับหาผู้เสียหายพูดจูงใจให้ยอมจ่ายเงิน เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียง โดยจำเลยที่ 2 ให้เหตุผลว่าจะพิสูจน์ว่าผู้เสียหายไม่มีความผิด และในวันดังกล่าวจำเลยที่ 3 ได้โทรหาภรรยาผู้เสียหายเพื่อเรียกเงิน แต่ได้ต่อรองจนเหลือราคา 1.5 ล้านบาท จากเดิม 3 ล้านบาท และขอให้จ่ายก่อนปีใหม่

อย่างไรก็ตามมีหลักฐานจากบทสนทนาในแอพลิเคชั่นไลน์ถึงการนัดหมายและเรียกรับเงินหลายครั้ง โดยเป็นการสนทนาระหว่างจำเลยที่ 3 ที่เป็นเลขาของจำเลยที่ 1 และยังมีการเชื่อมโยงกับจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 5 ทั้งบทสนทนาและหลักฐานการโอนเงิน นอกจากนี้ในวันที่ 26 ม.ค 67 ภรรยาผู้เสียหายได้นำเงินจำนวน 5 แสนบาทใส่ถุงพลาสติก มาแขวนไว้ที่หน้าประตูบ้านของจำเลยที่ 2 จากนั้นจำเลยที่ 5 ได้นำถุงเข้ามาในบ้าน

โดยมีการหยิบใส่ถุงพลาสติกสีดำอันมีลักษณะปกปิดและมีพฤติกรรมน่าสงสัย เป็นการแสดงให้เห็นว่าจำเลยที่ 5 ทราบว่าเงินดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร พฤติการณ์ของจำเลยทั้ง 5 เป็นการร่วมกันกระทำความผิดโดยแบ่งหน้าที่กันทำ

หลังการสอบสวนเสร็จสิ้น คณะพนักงานอัยการพิจารณาเห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาติให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องนำตัวไปฝากขังต่อศาล โดยให้มารายงานตัวตามกำหนดการใหม่

ก่อนหน้านี้ นายศรี สุวรรณ เปิดเผยว่าจะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการเพราะมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้ เช่นเดียวกับนายยศวริศ ที่ระบุว่าได้ให้ทนายความยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมแล้วและมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้คดีในชั้นศาลได้

Similar Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *